|
|
|
|
|
|
สถิติผู้เข้าชม
|
ขณะนี้มีผู้เข้าใช้
|
3
|
ผู้เข้าชมในวันนี้
|
1,955
|
ผู้เข้าชมทั้งหมด
|
12,964,218
|
|
|
2 พฤษภาคม 2567
|
อา |
จ. |
อ. |
พ. |
พฤ |
ศ. |
ส. |
| | |
1 |
2 |
3 |
4 |
5 |
6 |
7 |
8 |
9 |
10 |
11 |
12 |
13 |
14 |
15 |
16 |
17 |
18 |
19 |
20 |
21 |
22 |
23 |
24 |
25 |
26 |
27 |
28 |
29 |
30 |
31 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เกร็ดความรู้
|
|
อุณหภูมิ..น้ำ...กับตัวแรง ถึงจะแรง แต่ถ้าร้อนก็ไม่ไหวนะ
[19 พฤศจิกายน 2553 17:40 น.]จำนวนผู้เข้าชม 3438 คน |
|
สำหรับเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเอาไว้ขับเคลื่อนนั้น การเผาไหม้จะเกิดขึ้นได้ด้วยองค์ประกอบหลายอย่างคือเชื้อเพลิง, ออกซิเจน และอุณหภูมิ ที่เหมาะสม ซึ่งอุณหภูมิของเชื้อเพลิงแต่ละชนิดก็ไม่เหมือนกันด้วย และเมื่อองค์ประกอบทั้งหมด ที่ว่ามารวมตัวกันแล้วในปริมาณที่เหมาะสมและลงตัว มันจะเกิดการลุกไหม้ และให้พลังงานความร้อนออกมาก |
|
ยิ่งเครื่องยนต์ที่มีความแรงมากๆ อย่างพวกเครื่องยนต์ที่มีตัวช่วยในการ “อัด” อากาศ ซึ่งไอดีก็มีการประจะเข้าไปในกระบอกสูบอย่างรวดเร็วและมีปริมาณมาก กำลังก็เลยได้เพิ่มขึ้นมาอีกมากเช่นกัน แต่ในการอักอากาศเข้าสู่กระบอกสูบมากๆ นั้นก็มีข้อเสียเหมือนกัน คืออากาศที่ถูกอัดเข้าไปจะมีความร้อนสูงเนื่องจากการเสียดสีกันระหว่างโมเลกุล จนเกิดความร้อนและก็มีการขยายตัว ความหนาแน่นของอากาศลดลง ปริมาณอากาศที่เข้าห้องเผาไหม้จึงไม่เพียงพอที่จะทำให้เกิดการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ที่สุด และผลที่ตามมาอีกอย่างที่สำคัญมากๆ ก็คืออากาศที่เข้าห้องเผาไหม้มีอุณหภูมิสูงขึ้น และไอเสียที่ออกมาจากห้องเผาไหม้ก็จะมีอุณหภูมิสูงขึ้นตามไปด้วยอีกทั้งมันก็ยังทำให้ความร้อนของเครื่องยนต์สูงขึ้นตามไปอีก อย่างอุณหภูมิอากาศสูงขึ้น 10 องศา อุณหภูมิไอเสียก็จะสูงขึ้นไปอีก 3 เท่าเลยทีเดียว ดังนั้นต้องมีการลดอุณหภูมิของอากาศกันเสียก่อนโดยใช้อินเตอร์คูลเลอร์อย่างที่เราๆ ท่านๆ รู้จักกันดีไงล่ะ
|
อุปกรณ์ที่ว่านี้จะช่วยระบายความร้อนให้กับอากาศก่อนเข้าเครื่องยนต์ ซึ่งจะมีทั้งระบายความร้อนด้วยอากาศและระบายความร้อนด้วยน้ำ การลดความร้อนของอากาศก่อนเข้ากระบอกสูบจะช่วยให้เพิ่มแรงม้าขึ้นไปได้อีกระดับ 10-20 % เลยทีเดียวนะ แต่จะลดความร้อนได้ขนาดไหนมันก็แล้วแต่ประสิทธิภาพของอินเตอร์คูลเลอร์ลูกนั้นเหมือนกัน
พอเห็นภาพแล้วนะครับวาอุณหภูมิของอากาศนั้นมีความสำคัญกับประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ไม่น้อยซึ่งในการหาอุณหภูมิของอากาศที่ถูกอัดเข้าไปสู่กระบอกสูบจะยกตัวอย่างให้แล้วกัน อากาศภายนอกนั้นถูกดูดเข้าสู่อุปกรณ์อัดอากาศมีอุณหภูมิ 30 องศา (เซลเซียส) แรงดันบรรยากาศ (ปกติ) เข้า 0 บาร์ แรงดันอากาศเท่ากับ 1.3 บาร์ ผลที่ได้ออกมาประสิทธิภาพถือว่าเป็น 100 % ตามทฤษฎี แต่ถ้าเป็นอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นจริงจะต้องคิดประสิทธิภาพทาง “อะไดเบติค” (Adiabatic) เพียง 70 % ซึ่งจะได้อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นจริง 115.14 องศา โดยเครื่องยนต์ที่ทำงาน โดยมีอุณหภูมิปกติที่อยู่ภายนอกเครื่องยนต์เท่ากับ 30 องศา แรงดันบรรยากาศก่อนเข้าอุปกรณ์อัดอากาศเท่ากับ 0 บาร์ ส่วนแรงดันอากาศที่ถูกอัดผ่านอุปกรณ์อัดอากาศ(แรงบูสท์) เท่ากับ 1.3 บาร์ คิดแล้วจะได้อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น เท่ากับว่าเมื่อบูสท์สูงสุด 1.3 บาร์ อุณหภูมิของอากาศก่อนที่เข้าสู่เครื่องยนต์จะสูงขึ้นกว่าเดิมถึง 115.14 องศาโดยอุณหภูมิที่ว่านี้ยังไม่มีอินเตอร์คูลเลอร์มาช่วยลดความร้อน อย่างที่บอกแล้วในตอนต้น อุณหภูมิอากาศเพิ่ม 10 องศา อุณหภูมิไอเสียก็เพิ่มตามถึง 3 เท่า
|
|
ยิ่งอุณหภูมิไอเสียสูงขึ้นเท่าไร ตัวเทอร์โบจะยิ่งร้อนขึ้นตามมาเป็นลูกโซ่ เมื่อมีอินเตอร์คูลเลอร์มาช่วยระยายความร้อนของอากาศเราก็จะหาอุณหภูมิของอากาศที่ผ่านอินเตอร์คูลเลอร์ได้ โดยต้องรู้ถึงประสิทธิภาพของตัวอินเตอร์คูลเลอร์ด้วย ถ้าตัวอินเตอร์มีประสิทธิภาพ 50 % ส่วนอุณหภูมิอากาศภายนอก 30 องศา อุณหภูมิของอากาศที่ถูกอัดตัวแล้ว 110.6 องศา จะได้รู้ว่าอินเตอร์คูลเลอร์ลดอุณหภูมิอากาศได้เท่าไร อันนี้มีสูตรคือ
อุณหภูมิอากาศออกจากอินเตอร์คูลเลอร์ = (อุณหภูมิของอากาศที่ถูกอัดตัว-อุณหภูมิภายนอก) x ประสิทธิภาพอินเตอร์คูลเลอร์
อุณหภูมิอากาศออกจากอินเตอร์คูลเลอร์ = (110.6 – 30) x 0.5
อุณหภูมิลดลง = 40.3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิอากาศออกจากอินเตอร์คูลเลอร์ = 110.6 – 40.3 = 70.3 องศาเซลเซียส
|
อินเตอร์คูลเลอร์มีประสิทธิภาพมากเท่าใดก็จะสามารถ ช่วยลดอุณหภูมิของอากาศได้มากขึ้นเท่านั้น และถ้าเครื่องยนต์ได้ปรับเปลี่ยนให้เทอร์โบใหญ่และมีแรงบูสท์สูงขึ้นโดยที่เงื่อนไขอื่นยังเหมือนเดิม อุณหภูมิก็ต้องสูงขึ้นตามไปอีก อันนี้จะต้องมีการปรับน้ำมันให้เหมาะสมกับปริมาณอากาศที่เพิ่มขึ้นด้วยเครื่องยนต์จึงจะทำงานได้อย่างเต็มที่ แต่บางครั้งอาจจะมีปัญหาตามมาคือ เกิดการน็อคของเครื่องยนต์หรือความร้อนสูง แม้จะมีการปรับจูนแล้วก็ตาม เนื่องจากในรถบางรุ่นจะมีพื้นที่สำหรับติดตั้งอินเตอร์คูลเลอร์น้อย ไม่สามารถเปลี่ยนไปใช้ขนาดใหญ่ๆ ได้ ประสิทธิภาพที่ได้มาจึงไม่”เต็มที่” อย่างที่น่าจะเป็น
หนทางแก้ไขที่สามารถทำได้ก็คือ “น้ำ” อย่างที่ขึ้นหัวเอาไว้ อย่างพวกรถแข่งที่ใช้อินเตอร์ขนาดใหญ่มากๆ ไม่ได้ ก็จะใช้ “น้ำ” มาจัดการช่วยลดอุณหภูมิของอากาศอีกแรงนึง โดยน้ำจะถูกฉีดเข้าไปในท่อทางเดินของอากาศเพื่อลดความร้อนของอากาศที่ถูกอัดตัวเพื่อให้มีความหนาแน่นมากขึ้น ส่งผลให้การเผาไหม้เป็นไปอย่างสมบูรณ์ ลดปัญหาเรื่องความร้อนและการน็อคของเครื่องยนต์ได้
|
|
|
|